อาหารอิตาเลียนในโรงแรมหรู

#dreamdestination La Tavola & Wine Bar – ชื่อของห้องอาหารที่มีความหมายว่า “The Table” นี้ดูจะสื่อถึงความเอาใจใส่ต่อทุกองค์ประกอบบนโต๊ะอาหารให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด อาหารที่นี่จึงเน้นสไตล์ Classic Italian แท้ๆเป็นหลัก โดยจัดเมนูให้มีอาหารจากภูมิภาคต่างๆของอิตาลีครบครันดีทีเดียว ● Cigala Di Mare – Rock Lobster หั่นชิ้นโตๆอวบๆ เนื้อฉ่ำเด้งเต็มคำบ่งบอกว่า Confit มาได้ดีไร้ที่ติ ทานเคล้ากับ Stracciatella Cheese นุ่มๆ และ Artichoke ที่จี่มากรอบนอกนุ่มใน ตัดเลี่ยนด้วย Sun-Dried Tomato และผักร็อกเก็ต ได้ความอร่อยแบบหอมๆมันๆ รสอ่อนแต่กลมกล่อมดีค่ะ ● Friggitoria– สั่งเมนูนี้ทั้งๆที่รู้ว่ามันก็คือของชุบแป้งทอด เพราะเผอิญเห็นในเมนูเขียนไว้ว่าเป็นหนึ่งในเมนู Signature ของ Chef Salvo ก็เลยอยากรู้ว่ามันจะมีอะไรพิเศษไปกว่าปกติทั่วๆไปมั๊ย ปรากฏว่าของทอดก็คือของทอดนั่นล่ะ แต่ทอดมาได้ดีไม่อมน้ำมัน และวัตถุดิบดี เนื้อกุ้งเด้งๆชิ้นเป้งๆ เนื้อหมึกอวบๆ ชิ้นปลานุ่มๆ ตัดกับความกรอบของแป้งที่ชุบผิวมาได้ดี ทานกับเลมอนและ Aioli Sauce ก็โอเคอยู่ อันที่จริงก็ไม่มีอะไรบกพร่องจะให้ติ เพียงแต่มันไม่มีอะไรให้ว้าวแบบที่หวังไว้เท่านั้นเอง Serving Size ของเมนูนี้ใหญ่เอาเรื่อง เหมาะกับไปหลายๆคนแล้วเอามาแชร์กัน ถ้าไปกันแค่ 1-2 คนอาจอิ่มเลี่ยนจนจอดกันตั้งแต่คอร์สของว่างนี้เลยก็ได้นะ [Main Course] ● Pappardelle Paesana – เส้น Pappardelle ผัดกับ Italian Sausage, เห็ด Porcini และโรยผงเห็ด Truffle มาบางๆ (ไม่ได้ใส่ Truffle สดเป็นชิ้นๆมาให้เห็นแต่อย่างใดนะจ๊ะ) ชิมแล้วรสจะอ่อนไปหน่อยสำหรับเรา แต่ Italian Sausage ที่ใส่มานั้นอร่อยมากทั้งรสและสัมผัส ส่วนเส้นนั้นแข็งเกินงามไปหน่อยล่ะ ● Guancia di Maiale –เนื้อนุ่มสุดใจ ไม่ติดมัน อร่อยละมุน ทานคู่กับ gnocchi นุ่มๆ Baby Carrots และหน่อไม้ฝรั่งก็เข้ากันดีค่ะ [Desserts] ● Panna Cotta Modenese – ชอบ texture ของ Panna Cotta จานนี้มาก รสชาติจะหวานนำหน่อยๆ แต่พอเจอกับ Berries เปรี้ยวๆก็สมดุลกันดี เราชอบนะ ● Tiramisu – ทำตามที่รีวิวอื่นๆแนะนำไว้ คือตักทุกองค์ประกอบมาในช้อนให้ทานพร้อมกันทีเดียว หอมชีส หอมเหล้า หอมกาแฟ ..ฟินสุดๆไปเลย